Loki

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับการเขียนโครงร่าง


โกยคะแนนพิชิตใจกรรมการ!! เทคนิคการเขียน Essay 

อย่างง่ายและรวดเร็ว



ไม่ใช่เรื่องง่าย! สำหรับการเขียน Essay หรือการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษในฐานะนักเรียนไทยแม้แต่นักเรียนต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ คงส่ายหน้าปวดหัวอยู่เหมือนกัน เพราะการเขียน Essay ให้ถูกต้อง ตรงประเด็น และทำให้คนอ่านเข้าใจในบริบทที่เราต้องการสื่อสารนั้นไม่ใช่เรื่องหมูๆ จึงจำเป็นต้องใช้การสั่งสมด้วยการอ่านบทความ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ และฝึกฝนการเขียนของเราให้สม่ำเสมอ วันนี้ Life on Campus จึงนำเทคนิคการเขียนเรียงความเพื่อเป็นเคล็ดลับดีๆ ให้กับน้องๆ ที่ต้องการฝึกฝนงานเขียนให้ถูกใจกรรมการโกยคะแนนการเขียนได้สบายๆ..
       
โครงสร้างของการเขียน Essay ประกอบด้วย 3 ส่วน
       
       Introduction : ย่อหน้าแรกของ Essay ที่ใช้ในการเปิดเรื่อง หรือเป็นส่วนแรกของเรียงความที่จะบอกให้ผู้อ่านทราบเบื้องต้นว่าเรียงความนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร มักจะไม่ใส่รายละเอียดมากนัก Introduction ที่ดีควรจะดึงดูดใจให้ผู้อ่านเกิดความสนใจและทำให้เกิดความรู้สึกอยากรู้ว่าเนื้อหาต่อไปนั้นจะเป็นยังไง เรียกง่ายๆ ว่าทำให้ผู้อ่านอยากอ่าน Essay ของเราจนจบ สำหรับภายใน Introduction จะมี Thesis Statement ซึ่งเป็นประโยคสำคัญที่บอกให้ผู้อ่านทราบว่า Essay เรื่องนี้ต้องการจะกล่าวถึงอะไร 
       Body : ส่วนของเนื้อความ เป็นส่วนที่รวมเนื้อหา ใจความสำคัญของเรียงความไว้ โดยจะเป็นส่วนที่ยาวที่สุดของเรียงความ โดยตัวเนื้อความสามารถเขียนได้หลายย่อหน้า ขึ้นอยู่กับข้อมูลเพิ่มเติมที่เราต้องการขยายความหรือยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเข้าใจ
       Conclusion : บทสรุป เป็นการทบทวนและย้ำให้ผู้อ่านทราบว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรให้ผู้อ่าน หรือเป็นการสรุปสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดให้ผู้อ่านทราบ โดยเนื้อหาเน้นรวบรวมใจความสำคัญจาก Introduction และ Body ที่ได้กล่าวมาแล้ว 


  สำหรับส่วนของเนื้อความหรือ Body จะมีหน้าที่หลักๆ คือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้อ่าน เพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือคล้อยตามกับเรียงความของเรามากขึ้น โดยจะประกอบด้วย 3 ส่วนย่อยคือ Topic Sentence, Supporting sentences และ Concluding sentences
       
       - Topic Sentence อยู่ส่วนแรกของของแต่ละ Body ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านทราบว่าเนื้อความย่อหน้านี้จะกล่าวถึงคือเรื่องอะไร
       - Supporting sentences ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขยายความจาก Topic sentence รวมถึงการยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น
       - Concluding sentences เป็นการสรุปย้ำใจความสำคัญของย่อหน้าให้ผู้อ่านทราบอีกครั้ง
       
        สำหรับเทคนิคง่ายๆ ในการเขียน Topic sentence ที่ดีคือ ควรจะเขียนให้เป็น Simple sentence หรือประโยคความเดียว เพราะจะช่วยให้ประโยคมีความชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังในการเขียน Essay ที่ Life on Campus นำมาให้น้องๆ ได้อ่านกันเป็นข้อมูลในการเขียนเพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดทำให้เราโดนหักคะแนนได้ง่ายๆ นั้นเอง.. 


เขียนบทนำให้ดึงดูด อย่าสรุปทั้งหมดไว้ตั้งแต่เริ่ม!
       
        ในการอ่าน Essay คณะกรรมการมักจะใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น ดังนั้นบทนำของที่น้องๆ เขียนควรจะดึงดูดความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้น และไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะแก้บทนำใหม่หมดภายหลังจากที่เราเริ่มเขียนเนื้อหาของ Essay ที่สำคัญคืออย่าเขียนสรุปเนื้อหาทั้งหมดในบทนำ เพราะเท่ากับเป็นการเฉลยเนื้อหาไว้ตั้งแต่เริ่ม ทำให้ผู้อ่านไม่อยากอ่านเนื้อหาต่อๆ ไป หรือไม่มีความอยากรู้ที่จะติดตามตอนต่อไปนั้นเอง
       
        รวมไปถึงคณะกรรมการเองก็เช่นกัน หากการเขียนบทนำของน้องๆ คือการสรุปทั้งหมด คณะกรรมการก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอ่านเนื้อเรื่องที่เหลือของ Essay จึงควรสร้างความแปลกใจหรือสร้างความรู้สึกอยากติดตามชวนให้อ่านไว้ในบทนำ ด้วยการตั้งคำถามหรือประเด็นให้คณะกรรมการหรือผู้อ่านสนใจอ่าน Essay ของเราต่อไป รวมถึงทำให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อสารด้วย 
       
        
เช็คหลักไวยากรณ์ให้ดีก่อนส่ง!
       
        เชื่อเถอะว่าชาวเอเชียส่วนใหญ่หรือแม้กระทั่งเด็กไทยมีความแม่นในการจำหลักไวยากรณ์อยู่แล้ว เรียกว่าโครงสร้างเป๊ะ ถาม Tenses ไหนตอบได้หมด หรืออาจเก่งแกรมม่ามากกว่าเจ้าของภาษาเสียอีก ดังนั้นการทำข้อสอบการเขียนสิ่งสำคัญหลักๆ คือการเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์ ผู้เขียนคนใดสามารถจดจำโครงสร้างและเข้าใจการใช้ได้ถูกต้องย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง 
        
        Life on Campus จึงมีเทคนิคการตรวจสอบแกรมม่าที่เราเขียนใน Essay เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด นั้นคือการอ่านย้อนหลังจากประโยคสุดท้ายไล่ขึ้นไปถึงประโยคแรก เพื่อให้เราได้ตรวจสอบให้ดีทีละส่วน ทีละคำ ทีละประโยค เพื่อหาจุดผิดพลาดนั้นเอง เพราะผู้เขียนส่วนใหญ่หากอ่านประโยคแรกไล่ลงมาปกติแล้วมักคิดว่างานเขียนของเรายอดเยี่ยม แต่หากลองปรับ

  
ใช้ศัพท์ยาก..ไม่เข้ากับเนื้อหา
       
        สำหรับใครที่ชอบใช้งัดคำศัพท์ยากๆ งัดคำศัพท์สวยๆ อลังการมาใช้ในงานเขียน เพราะคิดว่ายิ่งใช้คำศัพท์ยากยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเก่งและรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นๆ แต่น้องๆ รู้หรือไม่ว่าการใช้คำศัพท์เหล่านั้นในการเขียนเรียงความ หรือใช้ในการเขียนโปรยบทนำให้ดูสวยหรู มันไม่ได้ทำให้เราได้เปรียบเสมอไป เพราะหากน้องๆ ไม่มั่นใจว่าความหมายคืออะไร หรือไม่มั่นใจว่าจะเรียบเรียงอย่างไรในการเขียนประโยค อาจทำให้เนื้อหาที่จะสื่อสารกับผู้อ่านนั้นผิดเพี้ยนและอาจทำให้โดนหักคะแนนได้
       
        สำหรับเทคนิคการฝึกเขียน น้องๆ สามารถหัดเขียนด้วยตัวเองด้วยการตั้งหัวข้อที่อยากเขียนขึ้นมาสักหนึ่งหัวข้อ หรืออาจให้อาจารย์ที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมอบหัวข้อให้ลองฝึกเขียน เมื่อน้องๆ ลองเขียน Essay เสร็จนำไปให้อาจารย์ตรวจงานเขียนดู เพื่อจะได้คำแนะนำในการเขียน หรือหากพบจุดผิดพลาดใดๆ อาจารย์ก็สามารถช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับเราได้ ถือเป็นการเพิ่มทักษะการเขียนของเราไปในตัวด้วย 
       
ลืมใส่แหล่งที่มา-แหล่งอ้างอิง
       
        ความจริงแล้วการเขียนเรียงความทางวิชาการไม่เหมือนกับการเขียนบล็อกหรือโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค หากน้องๆ อ้างอิงถึงแต่สิ่งที่เพื่อนพูด หรือเขียนคำคมขึ้นมาลอยๆ อาจลดคุณค่าและความน่าเชื่อถือของเรียงความที่เขียนไปเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นการคัดลอกผลงานโดยไม่อ้างอิงถึงแหล่งที่มาให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
        ดังนั้นน้องๆ ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการอ้างอิงแหล่งที่มาให้ถูกต้อง เป็นทักษะที่ต้องมีและต้องทำ ซึ่งสามารถปรึกษาและขอคำแนะนำจากอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ เรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้น หรือไม่ก็อ่านเรียงความทางวิชาการเยอะๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มพูนทักษะนี้ได้เช่นกัน




Easy & Fun English Learning : How to Write a Good Essay & Tips เทคนิคการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ


จาก https://www.youtube.com/watch?v=wtA4G6eGbqU


 อ้างอิงข้อมูลจาก
       - http://www.usnews.com/education/
       - http://www.ieltsbuddy.com/ielts-essay.html
       - http://grammar.yourdictionary.com/writing/how-to-write-an-essay.html
       - http://www.torcheducation.com/?p=1567
       - http://www.englishparks.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=146:-essay&catid=19:english-tip&Itemid=51



วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่4 คลังข้อสอบ

















                                      เด็ก60 ทำอะไรกันอยู่ ?


ตารางสอบสำหรับ #Dek60

ปี 2559
พ.ค. 59 - เปิดภาคเรียนที่ 1
ก.ค. 59 - สอบกลางภาคที่ 1
ก.ย. 59 - สอบปลายภาคที่ 1สมัครสอบ GAT PAT (รอบที่ 1)
ต.ค. 59 - สอบ GAT PAT (รอบที่ 1), สมัครสอบ 9 วิชาสามัญ
ธ.ค. 59 - สอบ 9 วิชาสามัญ

ปี 2560
ม.ค. 60 - สอบกลางภาคที่ 2สมัครสอบ GAT PAT (รอบที่ 2), ประกาศผลสอบ GAT PAT (รอบที่ 1)
ก.พ. 60 - สอบ O-Net, ประกาศคะแนน 9 วิชาสามัญ
มี.ค. 60 - สอบ GAT PAT (รอบที่ 2), ประกาศคะแนน O-Net
เม.ย. 60 - ประกาศผลสอบ GAT PAT (รอบที่ 2)
พ.ค. 60 - ยื่นคะแนน Admission
มิ.ย. 60 - ประกาศผล Admission, สอบสัมภาษ์

สำหรับน้องๆเด็กแอด #dek60 (ขึ้น ม.6) และ #dek61(ขึ้น ม.5)
ที่กำลังเตรียมตัวเพื่อเอนท์เข้ามหาวิทยาลัย...
ไม่ว่าจะด้วย โควต้า รับตรง หรือ แอดมิชชั่น

พอน้องๆขึ้น ม.6  นอกจาก สอบกลางภาค ปลายภาค แล้ว เรายังต้องสอบข้อสอบเหล่านี้ด้วยนะ

- GAT PAT
- 9 วิชาสามัญ
- O-NET
- สอบตรง (สำหรับบางคณะที่เปิดสอบตรง เช่น แฟชั่น, สถาปัตย์ ฯลฯ)


" ว่าแต่.... GAT PAT คืออะไร? "

GAT คือ ความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test) เป็นการวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัย
ให้น้องๆประสบความสำเร็จ แบ่งเป็น

GAT เชื่อมโยง
ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหา

GAT ภาษาอังกฤษ
ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย
- Speaking & Conversation
- Vocabulary 
- Structure & Writing
- Reading


PAT คือ ความถนัดในแต่ละวิชา (Professional and Academic Aptitude Test) คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา

PAT 1 คณิตศาสตร์
PAT 2 วิทยาศาสตร์
PAT 3 วิศวะ
PAT 4 สถาปัตย์
PAT 5 ครู
PAT 6 ศิลปกรรม
PAT 7 ภาษา ( ตัวเลือก : ฝรั่งเศส / เยอรมัน / ญี่ปุ่น / จีน / อาหรับ / บาลี )


" แล้ว... O-NET คืออะไร? "


O-Net ย่อมาจากภาษาอังกฤษ Ordinary National Education Test คือ การทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติขั้นพื้นฐาน เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความรู้และความคิดนักเรียนใน ชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6

ข้อสอบมีทั้งหมด 5 กลุ่ม คือ
1. สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม
2. ภาษาไทย
3. คณิตศาสตร์
4. อังกฤษ
5. วิทยาศาตร์

สำหรับน้องๆ ที่อยากเข้าคณะสถาปัตย์ หรือ ออกแบบ พี่เอาสัดส่วนการยื่นคะแนนมาให้ดูด้วยนะ


PAT 4 สถาปัตย์
GPAX 20%     O-NET 30%     GAT 10%    PAT4 40%

PAT 6 ศิลปกรรม (ศิลปกรรม, วิจิตรศิลป์, ดุริยางค์ศิลป์, คณะออกแบบ...) 
GPAX 20%     O-NET 30%     GAT 10%    PAT4/6 (*เลือก 1 วิชา) 40%


เห็นมั้ยว่า นอกจากความถนัดทางสถาปัตย์หรือการวาดรูป ออกแบบ
เรายังต้องให้ความสำคัญกับวิชาสามัญอื่นๆด้วยนะ !


ตัวอย่าง คลังข้อสอบต่างๆ

   ข้อสอบ Entrance 2543 - 2548   










 เหมาะสำหรับเตรียมสอบรับตรง โควตาต่างๆ ที่คณะ มหาวิทยาลัยจัดสอบเอง และเป็นแนวข้อสอบสำหรับเตรียมสอบ 7 วิชาสามัญ


  ข้อสอบ ONET 2548 - 2553   








                  ติวมาม่า วิทย์ O-NET ครูติ่ง กรกฤช ครั้งที่ 17 ตอนที่ 1


 ในบรรดาข้อสอบทั้งหมด จัดได้ว่าเป็นข้อสอบที่ง่ายที่สุด!!! เหมาะสำหรับเตรียมสอบรับตรง โควตาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม ม.ราชภัฎ ม.เทคโนโลยีราชมงคล ม.เอกชน และเป็นแนวข้อสอบสำหรับเตรียมสอบ ONET


   ข้อสอบ GAT/PAT  









>> GAT/PAT มีนาคม 2554    เตรียมสอบ #รับตรง กับ คล



                                     ติวเข้ม PAT 1 คณิตศาสตร์



    

                                    ติวเข้ม PAT 2 ไฟฟ้าเคมี




                               GAT Fundamental by Aj KLUI 

                   สอนแกทไทยขั้นพื้นฐานโดย อ.ขลุ่ย(ตอนเดียวจบ)





รวมข้อสอบ GAT เชื่อมโยง พร้อมเฉลย โดย AJ KLUI
            - ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง 14 ครั้ง (มี.ค. 52 – มี.ค. 54) + เฉลย คลิกที่นี่ 
            - ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง ต.ค. 54 มี.ค. 56 คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่  
            - ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง เม.ย. 57 + เฉลย คลิกที่นี่   
            - วิธีคิดคะแนน GAT เชื่อมโยง โดย Aj KLUI คลิกที่นี่
            - เรียนรู้เทคนิคการทำข้อสอบ GAT เชื่อมโยง และฝึกทำข้อสอบ GAT เชื่อมโยง                 พร้อมเฉลย กับ อ.ขลุ่ย ได้ที่ Facebook : Aj KLUI  คลิกที่นี่